Saturday, December 30, 2023

Year 2023 assessment

 Year 2023 assessment

Return = -27% included Dividend 
SET =  -15% , if add Dividend Yield 3% = Total -12%




Friday, December 1, 2023

Set status as of Dec 01, 2023

 Set status as of Dec 01, 2023

SET Index = 1380  PE = 17.94  (Thai Government 10 year Bond = 3.32% as per   Oct 2023)
Yield Gap =   2.25%

 Billy B. =  BEAR 




SET  1379   -->  1380  (0%)  


------------------------------------------------------
My Stock
SCAP                          +3% 

Sawad                        +7%

Wednesday, November 29, 2023

SCAP and SAWAD as of Nov 2023

 SCAP and SAWAD as of Nov 2023

SCAP 

          - ขาดทุนรถยึด peak Q3 และยังมีอีกใน Q4 แต่น้อยลง และกลับเป็นปกติ ใน  Q1 ปีหน้า

          - เป้าปีหน้า โต 25-30%

         - ECL ยังตั้งเยอะอยู่

        - Growth story = Cambodia finance company


SAWAD            

     - ECL น้อยลง และ คงที่แล้ว

     - ปีหน้า Cost of Fund 5%

     -  งบ 3 เดือน ใช้ Q3 เป็น base ได้ในการวิเคราะห์ 








Thursday, November 2, 2023

Forecast Financial Projection SAWAD and SCAP (Nov 2023)

 Forecast Financial Projection SAWAD and SCAP (Nov 2023)


SAWAD 

   - ผบห บอก Credit cost 1.5%  น่าจะประมาณ 350 MB

  -  use 500 MB --> Net Profit = 1400 MB --> EPS = 1  --> ราคา 45 baht FWD PE 11 เท่า




SCAP

       - If SAWAD Credit cost 1.5% = 350 MB 
       - Let say SCAP credit cost 1/3 = 120 MB (Credit cost SCAP = 1.5% พอดี)
       - EPS 0.07  --> ราคา 3.7  -->  FWD PE 13 เท่า




Wednesday, November 1, 2023

Set status as of Nov 01, 2023

 Set status as of Nov 01, 2023

SET Index = 1379  PE = 19.17  (Thai Government 10 year Bond = 3.04% as per   Sep 2023)
Yield Gap =   2.18%

 Billy B. =  BEAR 




SET  1469   -->  1379  (-6.5%)  


------------------------------------------------------
My Stock
SCAP                          -9% 

Sawad                        -4%

Monday, October 30, 2023

COCOCO as of Oct2023

 COCOCO as of Oct2023

PROS

- ขยาย capacity แบบโหด 

      2022 = 33,000  ton

      2023 = 100,000  ton 

      2024 = 218,000 ton

      2025 = 300,000 ton

- Demand ซื้อมะพร้าวจากจีน ยังโตอยู่

- เป็น OEM ที่มี มะพร้าวในมือมาก 


CONS

- Demand จากจีน จะลดลงไหม (Trend จะต่อเนื่อง หรือ fashion)

- ราคามะพร้าว ลดลงเรื่อย ๆ  มีผลต่อ Gross Profit Margin


Valuation 

- 2022 --> Capacity 33,000 ton ใช้จริง = 18,000 ton  --> Revenue 3300 MB

- 2026 --> Cap 300,000 ton ใช้จริง = 150,000 ton --> say Revenue = 20,000-26,000 MB 

- say NPM = 5-10% =  1,000 - 2,600 MB

- At 8.7 baht --> Mkt Cap = 12,700 MB    

- Worst 2026 = 1000 MB x PE10 = 10,000 MB (downside 20%)

- Best 2026 = 2600 MB x PE15 = 39,000 MB (upside 200%)


Tuesday, October 17, 2023

Impossible Trinity ลงทุนแมน

 สหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยแรงสุด รอบ 30 ปี ทำไมบางประเทศไม่ปรับขึ้นตาม /โดย ลงทุนแมน

นับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ FED ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ
- เดือนมีนาคม ปี 2565 ดอกเบี้ย 0.5%
- เดือนกันยายน ปี 2566 ดอกเบี้ย 5.5%..
ผ่านไปหนึ่งปีเศษ ดอกเบี้ยนโยบายของประเทศมหาอำนาจของโลก เพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า เม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก ไหลไปยังสหรัฐอเมริกา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจึงแข็งค่าต่อสกุลเงินอื่น
ธนาคารกลางของหลายประเทศ จึงต้องเริ่มเคลื่อนไหว เพื่อรักษาเสถียรภาพค่าเงิน หลายประเทศจึงปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น แต่ก็มีบางประเทศ เช่น จีน กลับปรับอัตราดอกเบี้ยลง
ทำไมแต่ละประเทศ จึงมีวิธีไม่เหมือนกัน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

การที่แต่ละประเทศ เลือกดำเนินนโยบายทางการเงินที่แตกต่างกันนี้
สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะว่า ข้อจำกัดจากทฤษฎี “Impossible Trinity” หรือสามเหลี่ยมที่เป็นไปไม่ได้
โดยปกติแล้ว ในการปรับนโยบายทางการเงิน ธนาคารกลาง หรือรัฐบาลของประเทศแต่ละประเทศ
มักจะยึดหลัก Impossible Trinity ซึ่งเป็นทฤษฎีที่กล่าวว่า ประเทศหนึ่ง ๆ จะสามารถเลือกใช้นโยบายทางเศรษฐศาสตร์ได้เพียง 2 อย่าง จาก 3 นโยบาย ดังนี้

1. การกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ หรือการตรึงค่าเงิน
2. การอนุญาตให้เคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรี
3. การกำหนดนโยบายการเงินอย่างอิสระ

กรณีแรก เลือกที่จะตรึงค่าเงินของตัวเอง คู่กับ การอนุญาตให้เคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรี โดย ไม่สามารถกำหนดนโยบายการเงินอย่างอิสระได้
ยกตัวอย่างประเทศที่ใช้แนวทางนี้ เช่น ฮ่องกง ซึ่งมีอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ ซึ่งตรึงไว้ที่ประมาณ 7.8 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งฮ่องกงไม่สามารถมีนโยบายการเงินของตัวเองได้ เช่นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยนโยบายของฮ่องกง อยู่ที่ 5.75% ซึ่งใกล้เคียงกับของสหรัฐอเมริกา ที่ 5.5%
ประเทศที่อนุญาตให้เคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรี คู่กับ การตรึงค่าเงิน มักเป็นกลุ่มประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน อย่างฮ่องกงและสิงคโปร์
ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอย่างซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีการพึ่งพาการค้าและการลงทุน
รวมถึงมีรายได้จากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และมีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกสูงมาก

กรณีที่ 2 คือ การอนุญาตให้เคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรี
คู่กับ ประเทศที่เลือกกำหนดนโยบายการเงินอย่างอิสระ
โดยประเทศในกลุ่มนี้ อาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยตามสหรัฐอเมริกาบ้างเล็กน้อย
เพื่อไม่ให้ความผันผวนของค่าเงิน มาส่งผลกระทบ ต่อการนำเข้า-การส่งออก มากจนเกินไป
ยกตัวอย่างประเทศที่ใช้แนวทางนี้ เช่น ประเทศไทย
ซึ่งล่าสุดที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปที่ 2.5% ซึ่งก็ยังถือว่าห่างไกลกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา ที่ 5.5%
จะเห็นว่า นโยบายการเงินของประเทศในกลุ่มนี้
จะมีความยืดหยุ่นกว่ากลุ่มแรก
คือไม่มีความจำเป็นต้องตรึงค่าเงินมากนัก เพราะมีอัตราแลกเปลี่ยนเป็นแบบลอยตัวนั่นเอง
ทำให้สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ย ได้ค่อนข้างอิสระ

กรณีที่ 3 คือ เลือกกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ คู่กับ สามารถกำหนดนโยบายการเงินได้อย่างอิสระ
ตัวอย่างประเทศที่เลือกใช้แนวทางนี้ เช่น ประเทศจีน
ซึ่งที่ผ่านมา แม้อัตราดอกเบี้ยในหลาย ๆ ประเทศจะสูงขึ้น ในทางกลับกัน จีนกลับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกัน จีนก็สามารถที่จะประกาศลดค่าเงิน หรือทำให้เงินแข็งค่าขึ้นได้ โดยใช้กลไกของเงินทุนสำรองที่มีอยู่อย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตาม จีนจำเป็นต้องควบคุมการไหลเข้าและออก ของกระแสเงินทุนอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านค่าเงิน เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ

อ่านมาถึงตรงนี้ เราคงพอสรุปกันได้แล้วว่า
สาเหตุที่แต่ละประเทศ เลือกใช้แนวทางการรับมือที่แตกต่างกัน
นั่นเป็นเพราะว่า แต่ละประเทศมีเป้าหมาย และโครงสร้างทางเศรษฐกิจต่างกัน
ดังนั้น เงื่อนไขและแนวทาง ที่ใช้ในการรับมือจึงแตกต่างกัน
ซึ่งเรื่องนี้ สามารถเชื่อมโยงกับหลักการ Impossible Trinity ได้ ตามที่อธิบายไป
ทั้งนี้ หากประเทศใด เลือกที่จะใช้ทั้ง 3 นโยบายของ Impossible Trinity ไปพร้อม ๆ กัน ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ
เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศไทยอย่าง วิกฤติต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 นั่นเอง..

Tuesday, October 3, 2023

ทำไม เจ้าของธุรกิจ ถึงชอบตั้งบริษัท มาถือหุ้นแทนตัวเอง | MONEY LAB

 ทำไม เจ้าของธุรกิจ ถึงชอบตั้งบริษัท มาถือหุ้นแทนตัวเอง | MONEY LAB

https://www.facebook.com/moneylabstory


ถ้าใครเคยดูรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ จะเห็นว่าโดยปกติแล้ว บริษัทจะมีชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นชื่อ และนามสกุล ของเจ้าของจริง ๆ
แต่หลายครั้ง เราก็จะพบว่า หลายบริษัทจะมีบริษัทอีกแห่งหนึ่งที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 อีกที
เช่น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 คือ บริษัท เซ็นทรัลโฮลดิ้ง จำกัด
บริษัทเหล่านี้มักจะถูกตั้งขึ้นมาเพื่อถือหุ้นในบริษัทอื่น ๆ โดยเฉพาะ เราเรียกบริษัทแบบนี้ว่า “บริษัทโฮลดิง”
แล้วข้อดีของการทำแบบนี้คืออะไร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอนให้เข้าใจ

เคยมีคำกล่าวว่า 2 สิ่งที่มนุษย์เราไม่สามารถหนีพ้นได้ คือ ความตายและภาษี

นักธุรกิจที่ชาญฉลาดจึงต้องมีการวางแผนรับมือกับ 2 สิ่งนี้ให้ดี ทั้งเรื่องการส่งต่อมรดก และการบริหารภาษี
ดังนั้น การจัดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในอาณาจักรธุรกิจของตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจครอบครัว
วิธีหนึ่งที่เป็นที่นิยมก็คือ การจัดตั้งบริษัทโฮลดิงขึ้นมา เพื่อถือหุ้นแทนสมาชิกแต่ละคนในครอบครัว
ข้อดีของวิธีนี้ในแง่ของการวางแผนส่งต่อมรดกก็คือ เป็นการป้องกันให้อำนาจควบคุมภายในบริษัทยังอยู่กับครอบครัวเจ้าของธุรกิจ
เพราะถ้าให้สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวถือหุ้นในนามส่วนตัว แล้วเกิดมีปัญหาขัดแย้งกันภายในครอบครัวขึ้นมา มีความเป็นไปได้ว่า สมาชิกบางคนอาจขายหุ้นของตัวเองให้กับบุคคลภายนอกบริษัท
โดยเหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับบริษัท SM เจ้าของค่ายเพลงชื่อดังในเกาหลีใต้มาแล้ว ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างสมาชิกในครอบครัว นำไปสู่การขายหุ้นให้บุคคลภายนอก จนเข้ามามีอำนาจควบคุมบริษัท

สำหรับตัวอย่างของธุรกิจครอบครัว ที่มีการวางแผนเพื่อสืบทอดธุรกิจให้ทายาทในครอบครัวแบบนี้คือ บริษัท LVMH เจ้าของสินค้าแบรนด์หรูระดับโลก
เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ เจ้าของ LVMH จัดตั้งบริษัทโฮลดิง ชื่อ Agache Commandite SAS ขึ้นมาถือหุ้น LVMH เพื่อรักษาอำนาจการควบคุมบริษัท LVMH ไว้
โดยเขาแบ่งสัดส่วนหุ้นของบริษัท Agache Commandite SAS ให้ทายาทของเขาอย่างเท่าเทียมกัน โดยมีเงื่อนไขว่า ห้ามมีการขายหุ้นบริษัทโฮลดิงให้แก่บุคคลภายนอก

สำหรับในประเทศไทยเอง ก็มีการจัดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในลักษณะนี้ เช่น เครือเซ็นทรัล, เครือซีพี, เครือไทยเบฟ หรือกัลฟ์ เป็นต้น
นอกจากเรื่องการวางแผนส่งต่อมรดกแล้ว การจัดโครงสร้างผู้ถือหุ้นแบบนี้ ยังมีประโยชน์ในแง่ของการวางแผนภาษีอีกด้วย
เพราะตามกฎหมายประเทศไทยแล้ว ถ้าบุคคลธรรมดาขายหุ้นของบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้น จะไม่ต้องเสียภาษี
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราขายหุ้นของบริษัทที่อยู่นอกตลาดหุ้น จะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งมีอัตราสูงสุด 35%
ดังนั้น หากเราต้องขายหุ้นของบริษัทที่อยู่นอกตลาดหุ้น การตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อถือหุ้นแทนเรา จะช่วยประหยัดภาษีให้เราได้อย่างมาก
เพราะอัตราภาษีนิติบุคคลของไทยในปัจจุบัน อยู่ที่เพียง 20%

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเราจัดตั้งบริษัทในเขตปลอดภาษี เช่น ฮ่องกง แล้วโอนเงินกลับมาในปีถัดไป ก็แทบจะไม่ต้องเสียภาษีเลย
แต่ในอนาคตการเลี่ยงภาษีแบบนี้ก็อาจจะลำบากมากขึ้น เพราะล่าสุดกรมสรรพากรมีการปรับกฎเกณฑ์ในการเก็บภาษีจากรายได้ที่โอนมาจากต่างประเทศใหม่
จากเดิม ถ้าเราโอนเงินกลับมาในปีภาษีถัดไป หลังจากมีรายได้เกิดขึ้น เราจะไม่ต้องเสียภาษี
ด้วยกฎเกณฑ์ใหม่ กลายเป็นว่าเราต้องเสียภาษี ไม่ว่าเราจะโอนเงินกลับมาปีไหนก็ตาม

แต่ถึงอย่างนั้น การตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อถือหุ้นแทนเรา ก็ยังช่วยประหยัดภาษีได้มากอยู่ดี
เพราะเงินปันผลที่จ่ายเข้าบริษัทโฮลดิง จะได้รับการยกเว้นภาษี ในกรณีที่มีองค์ประกอบครบ 3 ส่วน คือ
- เป็นบริษัทที่ บริษัทโฮลดิงถือหุ้นไม่น้อยกว่า 25% ของหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง
- บริษัทโฮลดิงและบริษัทย่อย ไม่ถือหุ้นไขว้ระหว่างกัน
- บริษัทโฮลดิงถือหุ้นก่อนและหลังจ่ายเงินปันผล ไม่น้อยกว่า 3 เดือน
ในขณะที่ บุคคลธรรมดาต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% หากได้รับเงินปันผล

ทั้งหมดนี้ก็คือ เทคนิคการส่งต่อความมั่งคั่ง และการวางแผนภาษีของเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ ที่เราสามารถพบเห็นได้ในตลาดหุ้น
จะเห็นได้ว่าเทคนิคเหล่านี้ เป็นการอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย เมื่อใดก็ตามที่กฎเกณฑ์เปลี่ยน เราทุกคนก็ย่อมต้องปรับตัวตามกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป..

Monday, October 2, 2023

Set status as of Oct 02, 2023

 Set status as of Oct 02, 2023

SET Index = 1469  PE = 20.31  (Thai Government 10 year Bond = 2.7% as per   Aug 2023)
Yield Gap =   2.22%

 Billy B. =  กลับลงไป BEAR 




SET  1561   -->  1469  (-5.8%)  


------------------------------------------------------
My Stock
SCAP                          -19% 

Sawad                        -17%

Wednesday, September 27, 2023

iii as of Sep2023

 iii as of Sep2023


1) กำไร ส่วนใหญ่มาจาก ANI

                        iii       ANI        SAL(AOTGA)      Others        Tax          Net Profit   

        Q1 -->    5           110               20                       16            -2                 149

        Q2 -->    17         111               20                       19            -5                 163


2) ANI --->  iii  now hold 51% --> if Listed finish --> กำไร ก็จะลดลงอีก 

        Ex.  After IPO --> hold around 30%  จากเดิม กำไร say 1000 MB รับ 500 MB --> after IPO จะรับ 300 MB


3) ค่า Freight ทรงตัวจากขาลง  both Air and Sea


4) AOTGA  6 เดือน ปี2023 --> กำไร 182 MB  ทั้งปี Let say 400 MB

    If  ประมูลงานที่ สุวรรณภูมิ ชนะ  and SAT-1 เปิดบริการ --> Let say Net Profit = 1000 MB

    iii hold 11% = share Profit 100 MB


5) งบปี 2024 

                                iii       ANI        SAL(AOTGA)      Others        Tax          Net Profit   

        year2024 -->    70      300               100                       60          -20             510  MB

        If PE20 = 10,000 MB (now at 12.5 baht = 10,000 MB)

        No Upside


6)  คนซื้ออาจหวัง การจองซื้อหุ้น ANI  หรือ AOTGA กำไรมากกว่าที่คาด








     

    

Monday, September 18, 2023

10X Fund as of Sep2023

10X Fund as of Sep2023

     - สิ้นปี 2023 จะครบ 5 ปี from 10 year Plan

     - CAGR of SETTRI max around 5%  

     - Now 5 year actual 10X = 5.7% CAGR ยังห่างไกล จาก standard  20%++

        ถ้าไต่ระดับขึ้นมาจน CAGR20% อาจ consider Sell  แต่ก็อาจใช้เวลาจนจบ project 10 year



เส้นฟ้า = 24% CAGR

เส้นส้ม = 10X actual



Friday, September 1, 2023

Set status as of Sep 01, 2023

 Set status as of Sep 01, 2023


SET Index = 1561  PE = 21.56  (Thai Government 10 year Bond = 2.58% as per   July 2023)
Yield Gap =   2.06%

 Billy B. =  BEAR** (ขึ้นมาเหนือเส้น 50 day and 200 day ด้วยบางช่วง - จัดรัฐบาลใหม่สำเร็จ)




SET  1550   -->  1561  (+0.7%)  


------------------------------------------------------
My Stock
SCAP                          +4.7% 

Sawad                        +6.9%

Tuesday, August 29, 2023

SCAP as of Aug 2023

 SCAP as of Aug 2023


- Q2 port โตประมาณ 3600 MB

  ปล่อยสินเชื่อ 6,000 MB จำนวนบัญชี 83,000 บัญชี

   แปลว่า Q2 ขายรถไปกลม ๆ  80,000 คัน (Q2 จำนวนมอไซด์ จดป้ายแดง 530,000 คัน)

  ผบห บอก still Mkt Share No.1


- Loan to Value (LTV) ลดลง 

  Q2 --> ปล่อย 72000 บาทต่อ account 

  Q1 --> ปล่อย 76000 บาทต่อ account

  Port Safety, ลด NPL, เตรียมพร้อม พรบ เช่าซื้อ by BOT 


- After this, เน้น Quality ไม่เน้น Volume


- Issued BOND 2,000 MB in Aug 2023  --> Cost of Fund จะเพิ่มขึ้นอีก


- ECL 380 basis point สูงมาก รวมขาดทุนรถยึดด้วย 

  (K.ธิดา บอก ECL ใน Analyst meeting ECL จะไม่เร่งตัวมาก แต่ไม่แน่ใจ พูดเรื่อง sawad or Scap)


- NPL ขึ้นต่อ now 2.5% ผบห มอง 3.x% ในสิ้นปี แล้วปีหน้าลดลง



Opinion:


- D/E now 3 เท่าแล้ว ไปได้อีก 15000 MB เต็มที่  ก่อนพร้อมทุน


- ถามเรื่อง Silent แต่ไม่ตอบ


- ถามเรื่อง Credit cost / Coverage ใน Q3-4 แต่ไม่ตอบ 


- Forecast ปีนี้ EPS 0.23 --> ปี2024 = 0.38 (65% growth)

  condition ตามรูป 





Wednesday, August 23, 2023

Non bank group as of Aug 2023

 Non bank group as of Aug 2023


MTC 

  -  Port ยังโตดีมาก (HP ยังชะลอ) , การสำรองยังเยอะ แต่ stage2 ลดลง ตลาด+10% หลังงบออก

  -  Q3 and Q4 Stable นั่นคือ ยังสำรองเยอะอยู่ 



TK

 -  หยุดปล่อย HP มอเตอร์ไซด์ มอง risk reward ไม่คุ้ม รอฟัง กฎเกณฑ์ BOT ที่จะมาคุม HP ทั้งระบบ



NCAP

 -  Port จะโตตามเป้า แต่ใน Q3 and Q4 ที่เน้นคือ คุณภาพ Port

 -  ECL ครึ่งปีหลัง น่าจะยังสูง



SAWAD

 -  ซื้อ FM คืนจาก ออมสิน --> Q3 yield จะลดลง เพราะดอกเบี้ย 15-18% 

 -  ECL มี One-Off เยอะเลย แต่ Q3 ไม่มีแล้ว (ผบห บอก 150 basis point)

 -  Coverage 60% is comfortable 



SCAP

 -  Port จะโตลดลง เพราะฐานใหญ่ขึ้น

 -  คุม LTV ต้องวางดาวน์ 10-30% (รองรับ BOT มาคุมด้วย) รายเล็ก ออกจาก industry

 -  ครึ่งปีหลัง  เน้นคุณภาพ



Friday, August 11, 2023

MTC as of 11 Aug 2023

 MTC as of 11 Aug 2023


- Port โตดีมาก +7000 MB

- Cost to income maintain

- NPL เพิ่ม แต่ stage 2 ลดลง ตลาด react +10% and +3%

-  ยังคงเป้า NPL not more than 3.5%


ช่วง Q and A ใน Oppday ที่น่าสนใจ

- ราคาขายรถ Stable  (แต่ขาดทุน ขายรถ 183 MB)

- ชะลอ การขายหนี้ ตั้งแต่ปีที่แล้ว พยายามตามหนี้เอง (แต่มี write off Qละ 500 MB)

- ผบห มอง Q3 and Q4 ผบห มอง maintain แต่ปีหน้า น่าจะกลับมาได้ 

- ผบห ให้มองหุ้น ระยะยาว 3-5 ปี  


What I think

-  if Q3-Q4 Maintain , EPS จะประมาณ 0.57 per Q  stable ตาม forecast 

- at 38 baht --> Fwd PE around 17 

- ถ้า ปีหน้า กลับมาดี  PE adjust around 20

- eps2024 say 2.6 x 20 = 52 baht --> Upside from 38 baht =  36%   






Wednesday, August 2, 2023

Set status as of Aug 02, 2023

 Set status as of Aug 02, 2023

SET Index = 1550  PE = 18.60  (Thai Government 10 year Bond = 2.58% as per   June 2023)
Yield Gap =   2.80%

 Billy B. =  BEAR** (ขึ้นมาเหนือเส้น 50 day แล้ว)




SET  1506   -->  1550  (+2.9%)  


------------------------------------------------------
My Stock
SCAP                          -12% 

Sawad                        -5%

Wednesday, July 26, 2023

ดัชนีรถยนต์ และ รถบรรทุกมือสอง

 ดัชนีรถยนต์ และ รถบรรทุกมือสอง  โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย


https://app.bot.or.th/BTWS_STAT/statistics/BOTWEBSTAT.aspx?reportID=919&language=TH






Tuesday, July 25, 2023

Holding Company info

 Holding Company info

Money Chat คุณชินภัทร วิสุทธิแพทย์

Summary by เพจ บันทึกการลงทุน หมอมือใหม่

-------------------------------------------------

ไทย 200Holdingถือ บริษัทในตลท 800บริษัท

บริษัทโฮลดิ้งถ้าถือถึง 25%

เวลารับปันผล

ยกเว้นภาษีเงินปันผล 10%

ยกเว้นภาษีเงินได้ 20%

เวลาจ่ายปันผลออกมา

จึงจะเสียภาษี10%

ถ้ายังไม่จ่ายสามารถdelayการเสียภาษีออกไป

-----------------------------------------------------------------

ประเภทHolding

Family Holding

อยู่บนสุดห่วงโซ่

ยั่งยืนสุดเป็นบริษ้ทที่ไม่มีวันตาย

เพราะไม่ทำสัญญาหรือลงทุนใดๆ ไม่JV

ไม่ต้องเสียภาษี จึงรอดทุกสถานการณ์

เป็นบริษัทเอกชนนอกตลาด ใช้มาตรฐานบัญชี NPAEs

เป็นNon Publicไม่ต้องทำงบ consolidated

-----------------------------------------------------

Property Holding

เช่นที่ดินจะไว้ที่Property Holding

เพื่อจำกัดความเสียหายต่อFamily Holding

เวลาโดนฟ้องร้อง เวียนคืนจะสิ้นสุดแค่ Property Holding

-Tangibleที่ดิน

-Intangible ทรัพย์สินทางปัญญา

-------------------------------------------------------------------

Investment Holding

Investment arm ไว้ JV

ส่งกำไรขาดทุน ให้แม่

แต่ภาษี กับหนี้สิน แยกจากแม่

---------------------------------------------------------

IPO Holding

Offshore Holding

aim คือ กำไรจากการขายหุ้นออกไม่ต้องเสียภาษี

เช่น ของTLIวันIPOขายหุ้นออกส่วนของ

--------------------------------------------------------

Offshore Holdingไม่ต้องเสียภาษีcapital gain

aimต่างจากHolding ในไทย

ต้องเสียภาษี capital gain20%

ตั้งเอาไว้รับปันผลเพราะไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10%

-------------------------------------------------

ขอบเขตอำนาจHolding

ถือ>50%หรือน้อยกว่าแต่มีอำนาจควบคุมเช่น

แต่งตั้งโยกย้าย CEO

ให้เป็นบ.ย่อย consolelidatedงบ

----------------------------------------------------------------------

ถือ25%ขึ้นไปไม่เกิน50%

มี Board seat

มี Negative Majority

มีอำนาจ block vote ถอดถอนกรรมการบริษัทมหาชน

ตามกฎหมายการประชุมมติสำคัญ เช่น เพิ่มทุน/ลดทุน ควบรวมบ. เลิกบ.

ต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 75%

เช่นSGCถือ 32%Global

ข้อสังเกต #ถ้ามีHolding #Companyของเจ้าของถือหุ้นอยู่

สันนิษฐานว่าaimเจ้าของไม่อยากขายหุ้น


----------------------------------------------------------------------------------------------

เพราะถ้าขายหุ้นผ่านHolding Company จะต้องเสียภาษีเงินได้จากกำไร ซึ่งราคาหุ้นที่ขึ้นมาเยอะจากตอนIPOกำไรจะต้องเสียภาษีจะเยอะมาก

ต่างจากการขายหุ้นผ่านบุคคลธรรมดา

ได้รับการยกเว้นภาษีจากcapital gain

เจ้าของเอาHolding Companyไว้เก็บเงินปันผล

ที่ได้รับการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10%

นำเงินก้อนนั้นไปลงทุนเพิ่ม เช่น ปล่อยกู้

ข้อดีการปล่อยกู้ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3%

----------------------------------------------------

การเอาเงินออกจากHolding Company

ปันผล

ปล่อยกู้

รายจ่าย (ปกติHoldingรายจ่ายน้อย เพราะรายได้เป็นpassive income รายจ่ายควรpassiveด้วย)

เอาเงินไปลงทุน


----------------------------------------------------------------------------

เพิ่มเติม

บ.ย่อย

ถือ50%ขึ้นไปหรือมีอำนาจควบคุมเช่นแต่งตั้งโยกย้ายผบห.ระดับ CEO CFO

consolidatedงบรวมกันตั้งแต่รายได้

-----------------------------------------------------------

บ.ร่วม

ถือ20- <50%

รับเป็นส่วนแบ่งกำไร

---------------------------------------------------------

บ.ที่ถือเงินลงทุน

ถือ<20%

รับปันผล

--------------------------------------------------------

-ลงทุนเพื่อค้า  มูลค่าเงินลงทุนตามราคาหุ้นขึ้นลงในงบPL : ROJNAถือGULFเพื่อค้า

ราคาหุ้นGULFมีผลต่อกำไรROJNA

-ลงทุนเผื่อขาย  มูลค่าเงินลงทุนตามราคาหุ้นขึ้นลงในงบดุลส่วนผู้ถือหุ้น ไม่มีผลต่อกำไร