Thursday, February 26, 2015

AJP as of Feb 26 '14

จากข่าวนี้

http://www.ryt9.com/s/iq05/2087794

AJP ตั้งเป้ารายได้ปี 58 โตกระโดดเป็น 750 ลบ.ลุยโซลาร์ฟาร์ม 2 แห่ง
นายวรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเซีย จอยท์ พาโนราม่า(AJP)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทฯได้ตั้งเป้ารายได้ปี 58 ราว 750 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดดจากปี 57 ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 200 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงรักษาธุรกิจมีเดียเป็นธุรกิจหลัก ซึ่งในปันี้จะมีรายได้จากงานอีเว้นท์เพิ่มขึ้น ขณะที่แผนงานด้านธุรกิจพลังงานทดแทน จะมีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ รวมทั้งธุรกิจด้านไอที

ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทศึกษาการทำธุรกิจพลังงานทดแทนในรูปแบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม) คาดว่าจะได้ข้อสรุปการร่วมลงทุนภายในไตรมาส 1/58 โดยจะมีขนาดกำลังการผลิตไม่เกิน 200 เมกะวัตต์ ซึ่งมีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าขายให้กับกฟน.อยู่แล้ว ทั้งนี้ เพราะบริษัทฯจะเน้นลงทุนในโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้แล้วเท่านั้น
 

นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนในโซลาร์ฟาร์มอีกแห่งหนึ่ง แต่มีขนาดกำลังผลิตที่มากกว่า 200 เมกะวัตต์ โดยมีความเป็นไปได้ทั้งการร่วมลงทุนและการซื้อกิจการ แต่ขณะนี้ยังเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นศึกษา คาดว่ายังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะสามารถสรุปผลได้
 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AJP กล่าวว่า ในด้านธุรกิจมีเดียและอีเวนท์นั้น ขณะนี้บริษัทได้ติดต่อเชิญทีมสโมสรอาเซนอลจากพรีเมียร์ลีกของอังกฤษมาเตะกับทีมชาติไทย โดยคาดว่าจะลงสนามได้ราวกลางเดือน ก.ค.นี้ในโครงการ"อาเซนอลทัวร์เอเชีย 2015"หลังจากปิดฤดูกาลของพรีเมียร์ลีกไปแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน(RO)ประมาณ 1,560 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้ในธุรกิจเดิมที่เป็นมีเดียและอีเวนท์ประมาณ 50%, ลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทน 17%, ลงทุนธุรกิจไอที 17% และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

อนึ่ง AJP จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 263,775,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่(Rights Offering)ในอัตราจัดสรร 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขาย 6 บาทต่อหุ้น กำหนดวันจองซื้อและชำระค่าหุ้น 13-19 มี.ค.58 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน 2 มี.ค.58

นอกจากนี้ บริษัทจะออกและเสนอขายหุ้นกู้ จำนวนรวมไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการขอมติจากผู้ถือหุ้นเผื่อไว้ก่อน

นายวรัญญู กล่าวต่อว่า สำหรับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน PP ให้กับนายธนา เบญจาธิกุล จำนวน 12,000,000 หุ้น เนื่องจากนายธนามีความสามารถทางด้านกฏหมาย จึงได้เชิญมาร่วมลงทุนด้วย เพื่อต้องการให้มาช่วยเสริมธุรกิจเดิมของบริษัทฯในแง่ของกฎหมาย แต่คงไม่เข้ามาร่วมบริหาร
"เขาจะมาดูเรื่องกฎหมายให้เรา ดูลิขสิทธิ สิทธิบัตร ใบอนุญาติต่าง ๆ ซึ่งเขาจะไม่เข้ามาร่วมเป็นผู้บริหารของ AJP คุณธนาจะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นเฉย ๆ"นายวรัญญู กล่าว

--------------------------------------------------------------------------------------------
 
มี AJP-W1 อีก 128 ล้านหุ้น ราคาใช้สิทธิ = 2.36 baht
หากแปลงหมด จะได้เงิน = 302 MB
 
---------------------------------------------------------------------------------------------
 
เน้น พลังงานทดแทน
 
จำนวนหุ้นหลังเพิ่มทุน = 200+264+12+128 = 604 ล้านหุ้น
 
จำนวนเงินที่ต้องใช้กับธุรกิจพลังงานทดแทน say 150 MW = 150x70 = 10,000 MB
 
say กู้ได้ 3:1 ดังนั้น ใช้เงิน = 2,500 MB
 
เงินจากเพิ่มทุน 17% ตามข่าว = 270 MB + หุ้นกู้ 2,000 + จากW1 อีก 300 = 2,500 MB พอดีเบยยย
 
-----------------------------------------------------------------------------------------------
 
 
Valuation Market Capt จากเทียบกับหุ้นตัวอื่น ๆ
 
 
 
ใช้ Factor 80 MB per MW
 
จะได้ Market Capt = 150 x 80 = 12,000 MB
 
ราคาหุ้น = 12,000/604 = 20 baht
 
-------------
 
ถ้าใช้ Factor 100 MB per MW
 
จะได้ Market Capt = 150 x 100 = 15,000 MB
 
ราคาหุ้น = 15,000/604 = 25 baht
 
-------------
 
ราคาหุ้นวันนี้ ยังไม่ได้ เพิ่มทุน = 12.5 baht
 
 
 
 
 
 
 
 

Wednesday, February 25, 2015

KTC as of Feb 24 '15 (หลังงบ Q4'57, Forecast 2558, Oppday Feb 24 '15)

KTC as of Feb 24 '15 (หลังงบ Q4'57, Forecast 2558, Oppday Feb 24 '15)


งบ Q4'57 --> EPS'57 = 6.81







Forecast2558
  
     ได้ EPS = 8.6 bps  โดย assume ว่า Growth 10% และ หนี้เสีย อยู่ในระดับเดิมเท่าปี 2557






ข้อมูลจาก Oppday Feb 24 '15

- กำไร minimum 2000 MB (15% growth, EPS=7.8 bps)
- รายได้ โต 10-15%
- Marketing Cost = 1000 MB
- ถ้า ศก คงที่ จะไม่ตั้งสำรองมากไปกว่านี้
- Long Term ROE = minimum 20%

- Average spending now = 6500 baht per credit card
- จะมีการ Re-Branding ในปลาย Q2 (เน้นปรับเรื่องภายใน)

Tuesday, February 24, 2015

TASCO หลังจาก งบ Q4'57 ออก

TASCO หลังจาก งบ Q4'57 ออก


Net Profit สูงถึง 1200 MB แต่เดี๋ยวก่อน........



มีกำไรจากการ Hedging ถึง 1451 MB.......... ถ้าไม่มีตัวนี้ ขาดทุนเลยนะเฮ้ยยย แล้วเดาทางไม่ได้ด้วย

เดาแบบมั่วที่สุด คือ แทงลงน้ำมัน ตอน Q3-Q4 ไว้ เลยได้ตังค์ แต่ Q1'58 น้ำมัน เริ่ม sideway แล้ว จะแทงยากนะ



GPM Q4'57 ดีขึ้นมาก ๆ ๆ เลย

ลอง Forecast โดยใช้ GPM Q4'57 เป็นหลัก เพราะ Q1'58 ราคาน้ำมัน อยู่ระดับ 60 USD/Barrel สูสีกับ ราคาเฉลี่ยเมื่อ Q4'57 และราคายางมะตอย ตกนิดเดียว

ปี 2558 TASCO Forecast

Revenue 10% growth (เดา)  = 50,300 MB

Gross Profit (6.5%) = 3,270 MB

รายได้อื่น ๆ = 500 MB

Hedging & Stock adjust = ยังไม่คิด

คชจ ขายและบริหาร = 800 MB

เหลือ EBIT = 2,970 MB

Financial Cost = 220 MB

EBT = 2,750 MB

Tax 14% =  385 MB

Net Profit = 2,365 MB

EPS = 15.4 baht per share

as of Feb 24 '15 = 96 baht

PE10 = 154 baht (60% upside)

ภายใต้ assumption
- 10% growth
- Hedging & Stock adjust = ยังไม่คิด
- GPM 6.5% ทุุก Quarter




Monday, February 2, 2015

SET status as of Feb 2 '15

SET status as of Feb 2 '15



SET Index = 1582
 PE = 18.95
 (Thai Government 10 year Bond = 2.87% as per Dec 2014)
 Yield Gap = 2.41% (ต่ำกว่า 1.8% ควรระวัง!!!) (มากกว่า 2.5% น่าสนใจนะ!!!)



Billy B. = กลับมาเป็น Bull

 O'Neil   = กลับมาเป็น Uptrend !!!!

  % SET compare to EMA50 = 1582 vs 1548 = 2.2% (ถ้า 5% ถือว่าค่อนข้าง peak ทีเดียว!!!)