SYMC (July 2024) from เพจ Superstarman
.ธุรกิจ Data Center มี Value Chain ที่ครอบคลุมหลายส่วนในอุตสาหกรรม ในส่วนของต้นน้ำ เช่น
(1) ผู้ผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วน บริษัทที่ผลิตส่วนประกอบหลัก เช่น เซิร์ฟเวอร์, อุปกรณ์เก็บข้อมูล, ระบบระบายความร้อน, UPS และอุปกรณ์สนับสนุนอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับ Data Center
(2) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม บริษัทที่ให้บริการสายไฟเบอร์ออปติกและโครงข่ายการเชื่อมต่อซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรับส่งข้อมูลเข้าออกจาก Data Center
ในส่วนของปลายน้ำเช่น
(3) ผู้ให้บริการ Cloud / Co-location หรือผู้ให้บริการบริการต่างๆ เช่น SaaS (Software as a Service)
โดย SYMC ก็คือผู้ให้บริการต้นน้ำในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน
.บริษัท มีสายเคเบิลใยแก้วนำแสงเป็นระยะทางกว่า 25,400 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในประเทศไทย ดังนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล / พื้นที่เศรษฐกิจหลักรวม 50 จังหวัด อาคารสำนักงานชั้นนำและนิคมอุตสาหกรรม และรวมถึงเคเบิ้ลใต้น้ำในการเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศ (MCT ถือหุ้น 33%) เชื่อมต่อ 3 ประเทศ มาเลเซีย กัมพูชาและไทย ระยะทางรวม 1,300 กิโลเมตร
.Over-the-Top (OTT) จะเป็นส่วนเร่งให้การเติบโตสูงขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น บริการสตรีมมิ่งวิดีโอ Netflix, Amazon Prime Video, และ Disney+ หรือพวกบริการเกมออนไลน์ รวมถึงพวก Facebook Reels , TikTok โดย 2 ใน 3 ของปริมาณการใช้งานมาจาก OTT
.
*เทคโนโลยีสตรีมมิ่งวิดีโอที่ชัดขึ้น จาก FullHD (1080p) มาเป็น 2k (1440p ) จะใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเยอะมากๆ
.มีบริษัทแม่ในมาเลเซีย TIME dotcom (ผู้ประกอบการด้าน Infrastructure อันดับ 2 ในมาเลเซีย) ซึ่งถือหุ้นใน SYMC อยู่ที่ประมาณ 46.84% และพันธมิตรในสิงคโปร์ จะช่วยให้การเติบโตจากลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นได้ดีเพราะแม่ป้อนงานให้ โดยที่ต้นทุนที่แม่เข้ามาซื้ออยู่เฉลี่ยๆ แถวๆ +/- 10.5 บาท
.คู่เทียบ บริษัทที่ใกล้เคียง เช่น ALT และ ITEL และผู้เล่นในต่างประเทศเช่น , Telstra (ออสเตรเลีย) , TIME (Asean)
อื่นๆ เช่น , AT&T(อเมริกา) ,SingTel (สิงค์โปร์) , Vodafone (ยุโรป)
.บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ ~33% แต่ก็มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากราคาขายต่อปริมาณการใช้ข้อมูลมีแนวโน้มลดลง (แต่ก็ได้ชดเชยจากปริมาณการใช้งานที่มากขึ้น) โดยที่กำไรขั้นต้นที่มาจากต่างประเทศนั้นมีสัดส่วนที่ใหญ่ขึ้นแต่ที่มีอัตรากำไรที่น้อยลง
.Capex จะมีเพิ่มเติมบ้างในการลงทุน เช่นต้องลากสายไปเชื่อมกับลูกค้า รวมถึงการเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ทันสมัย และมีค่าเสื่อมที่ถูกตั้งไว้ในสัดส่วนที่สูงหน่อย
.ความเสี่ยงจากเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลง เช่น ดาวเทียม starlink ที่อาจมา disrupt ได้ (แต่ใยแก้วนำแสงคงอยู่ได้ไปอีกนาน + กับอุตสาหกรรมยังต้องการความเสถียรที่สูงอยู่)
.ปัจจัยการขยาย Data Center ในไทย
(1) ทำเลที่ตั้ง ไทยเป็นศูนย์การในการวาง Data Center ได้ / รวมถึงภัยธรรมชาติต่ำ แผ่นดินไหว/น้ำท่วม(นานๆ ที)
(2) ระบบไฟฟ้าที่เสถียร และไฟฟ้าที่เป็น green มีให้ใช้
(3) ตลาดมีการขยายตัว เช่นผู้ใช้งาน facebook , tiktok ในไทยเยอะ รวมถึงการใช้พวก prompt-pay หรือธุรกรรมการเงิน
(4) มี BOI ให้ผู้ประกอบการ
No comments:
Post a Comment