https://www.facebook.com/longtunman/photos/a.113656345833649.1073741828.113397052526245/316086878923927/?type=3&theater
KTC จาก 25 เด้งก้าวสู่ 32 เด้ง / โดย ลงทุนแมน
กลางปี 2554 หุ้น KTC ทำราคาต่ำสุดที่ 10 บาท
KTC เมื่อ 9 เดือนที่แล้ว มีราคาอยู่ที่ 95 บาท ตอนนี้ KTC ราคามาอยู่ที่ 326 บาท
เพียงแค่ในเวลาไม่ถึง 1 ปี...หุ้นตัวนี้เพิ่ม 3.4 เท่าและ 7 ปี หุ้นตัวนี้เพิ่ม 32 เท่า
ครั้งที่แล้วลงทุนแมนเขียนบ ทความ KTC 25 เด้ง แต่ตอนนี้ได้ก้าวสู่ 32 เด้งแล้ว..
ทำไมหุ้น KTC ถึงโตได้มากขนาดนี้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ทบทวนธุรกิจของ KTC ให้ฟังกันก่อนนิดนึง
ธุรกิจของ KTC ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มหลักคือ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และ ธุรกิจอื่นๆ (ธุรกิจทวงถามหนี้และธุรกิจ สินเชื่ออื่นๆ)
รายได้ของ KTC มีรายได้มาจาก 2 ส่วนหลักคือ รายได้จากดอกเบี้ยรับและราย ได้ค่าธรรมเนียม
วันนี้ KTC ได้ประกาศผลประกอบการ Q1/61
ปี 2560 Q1 มีรายได้อยู่ที่ 4,633 ล้านบาท กำไรสุทธิ 733 ล้านบาท
ปี 2561 Q1 มีรายได้อยู่ที่ 5,108 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,209 ล้านบาท
กำไร Q1 เติบโตจากปีที่แล้วมากขึ้นถ ึง 65%
9 เดือนที่แล้ว มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 24,494 ล้านบาท ปัจจุบัน มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 84,053 ล้านบาท มูลค่าของบริษัทคิดเป็นการเ พิ่มขึ้นถึง 243%
การเติบโตในครั้งนี้ของ KTC มาจากไหน
ในส่วนของรายได้เมื่อเทียบก ับปีที่แล้วพบว่าเพิ่มขึ้นม าจาก
รายได้ดอกเบี้ยของสินเชื่อส ่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น 14%
รายได้ค่าธรรมเนียม 15%
หนี้สูญที่ได้รับกลับคือเพิ ่มขึ้น 31%
ส่วนรายได้ของดอกเบี้ยจากบั ตรเครดิตลดลง 7% ซึ่งเป็นผลมาจากการลดเพดานด อกเบี้ยบัตรเครดิตของธนาคาร แห่งประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ ว
เมื่อรวมทุกส่วนเข้าด้วยกัน แล้วพบว่า KTC มีรายได้เติบโตขึ้นประมาณ 10% จากปีที่แล้ว
NPL มีจำนวนที่ลดลงเมื่อเทียบกั บปีที่แล้วจาก 1.68% เหลือ 1.34%
แสดงถึงว่า KTC สามารถจัดการหนี้เสียได้ดีข ึ้น
KTC เจอความท้ายทายในปีที่แล้ว เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการปรับปรุงประกาศเกี่ ยวกับแนวทางในการกำกับดูแลธ ุรกิจสินเชื่อ
ทั้งควบคุมอัตราดอกเบี้ยที่ KTC จะเก็บลูกค้า ควบคุมเพดานวงเงินสินเชื่อ รวมถึงกำหนดให้ ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลให ้ขอสินเชื่อได้ไม่เกิน 3 แห่ง
ซึ่งหลายคนมองว่าจะส่งผลกระ ทบกับ KTC มาก เนื่องจากธุรกิจ KTC ส่วนใหญ่เป็นบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ทำให้ราคาตกลงไปต่ำสุดที่ 95 บาท
แต่ผลออกมาบริษัท KTC ไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าไร แต่กลับกลายเป็นว่าบริษัทยั งทำให้กำไรเติบโตได้เสียด้ว ยซ้ำ
เรื่องนี้เป็นข้อคิดที่ดีเว ลาเกิดข่าวร้าย คนที่มองทะลุปรุโปร่ง ข่าวร้ายจะกลับกลายเป็นโอกา สให้เขาทำกำไรได้
สมมติว่าเราซื้อหุ้น KTC เมื่อ 9 เดือนแล้ว 1 แสนบาท ตอนนี้เราจะมีเงิน 3.4 แสนบาท
และถ้าเราซื้อหุ้นนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้วตอนนี้เราจะมีเงิน มากถึง 3.2 ล้านบาทเลยทีเดียว..
Within crisis, are the seeds of opportunity.
หมายเหตุ การลงทุนมีความเสี่ยง บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้น ำให้ซื้อหุ้นที่กล่าวถึง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใ จลงทุน [5467]
KTC เมื่อ 9 เดือนที่แล้ว มีราคาอยู่ที่ 95 บาท ตอนนี้ KTC ราคามาอยู่ที่ 326 บาท
เพียงแค่ในเวลาไม่ถึง 1 ปี...หุ้นตัวนี้เพิ่ม 3.4 เท่าและ 7 ปี หุ้นตัวนี้เพิ่ม 32 เท่า
ครั้งที่แล้วลงทุนแมนเขียนบ
ทำไมหุ้น KTC ถึงโตได้มากขนาดนี้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ทบทวนธุรกิจของ KTC ให้ฟังกันก่อนนิดนึง
ธุรกิจของ KTC ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มหลักคือ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และ ธุรกิจอื่นๆ (ธุรกิจทวงถามหนี้และธุรกิจ
รายได้ของ KTC มีรายได้มาจาก 2 ส่วนหลักคือ รายได้จากดอกเบี้ยรับและราย
วันนี้ KTC ได้ประกาศผลประกอบการ Q1/61
ปี 2560 Q1 มีรายได้อยู่ที่ 4,633 ล้านบาท กำไรสุทธิ 733 ล้านบาท
ปี 2561 Q1 มีรายได้อยู่ที่ 5,108 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,209 ล้านบาท
กำไร Q1 เติบโตจากปีที่แล้วมากขึ้นถ
9 เดือนที่แล้ว มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 24,494 ล้านบาท ปัจจุบัน มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 84,053 ล้านบาท มูลค่าของบริษัทคิดเป็นการเ
การเติบโตในครั้งนี้ของ KTC มาจากไหน
ในส่วนของรายได้เมื่อเทียบก
รายได้ดอกเบี้ยของสินเชื่อส
รายได้ค่าธรรมเนียม 15%
หนี้สูญที่ได้รับกลับคือเพิ
ส่วนรายได้ของดอกเบี้ยจากบั
เมื่อรวมทุกส่วนเข้าด้วยกัน
NPL มีจำนวนที่ลดลงเมื่อเทียบกั
แสดงถึงว่า KTC สามารถจัดการหนี้เสียได้ดีข
KTC เจอความท้ายทายในปีที่แล้ว เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการปรับปรุงประกาศเกี่
ทั้งควบคุมอัตราดอกเบี้ยที่
ซึ่งหลายคนมองว่าจะส่งผลกระ
แต่ผลออกมาบริษัท KTC ไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าไร แต่กลับกลายเป็นว่าบริษัทยั
เรื่องนี้เป็นข้อคิดที่ดีเว
สมมติว่าเราซื้อหุ้น KTC เมื่อ 9 เดือนแล้ว 1 แสนบาท ตอนนี้เราจะมีเงิน 3.4 แสนบาท
และถ้าเราซื้อหุ้นนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้วตอนนี้เราจะมีเงิน
Within crisis, are the seeds of opportunity.
หมายเหตุ การลงทุนมีความเสี่ยง บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้น
No comments:
Post a Comment